สักการะ ศาลหลักเมืองสุรินทร์ (City Pillar Shrine) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

ที่เที่ยวสุรินทร์ ไหว้ขอพร ศาลหลักเมือง

สุดยิ่งใหญ่งดงามตระการตา


👉แนะนำสถานที่

    ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เป็นสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุรินทร์ อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร เดิมเป็นศาลที่ยังไม่มีเสาหลักเมือง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 กรมศิลปากรได้ออกแบบสร้างศาลหลักเมืองใหม่ เสาหลักเมืองเป็นไม้ชัยพฤกษ์ที่ได้มาจากนายประสิทธิ์ มณีกาญจน์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเสาไม้สูง 3 เมตร วัดโดยรอบเสาได้ 1 เมตร ทำพิธียกเสาหลักเมืองและสมโภช เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2517 ศาลหลักเมืองสุรินทร์เดิมเป็นศาลที่ยังไม่มีเสาหลักเมืองแต่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไปมาเป็นเวลานานนับ 100 ปี ครั้ง พ.ศ. 2511 จังหวัดสุรินทร์ได้ดำเนินการขอให้กรมศิลปากรออกแบบแปลนก่อสร้างตัวศาลหลักเมือง เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ซึ่งได้รับมอบมาจาก นายประสิทธิ์ มณีกาญจน์ ราษฎร อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีความสูง 3 เมตรวัดรอบได้ 1 เมตรแกะสลักตกแต่งด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร ต่อมา วันที่ 21 ส.ค. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ ตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และพระราชทานดำรัสว่า "การสร้างเสาหลักเมืองนี้ดี เป็นหลักแหล่งความสามัคคี ขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความสามัคคีกัน สร้างความเจริญก้าวหน้า และขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความร่มเย็นเป็นสุข" นายสงวน สาริตานนท์ ผวจ.สุรินทร์ ในสมัยนั้น ได้อัญเชิญเสาหลักเมืองมายังจังหวัดสุรินทร์ มีการแห่ไปรอบเมืองและอัญเชิญเสาหลักเมืองขึ้นบนแท่นประดิษฐานไว้ที่ศาลหลักเมือง และเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2517 ได้ประกอบพิธียกเสาหลักเมือง และมีพิธีฉลองสมโภช ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อชาวบ้านพบถนนคอนกรีตที่ใช้เป็นสัญจรไปมา ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณศาล มีรอยแยกของถนนอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาถนนเริ่มยกตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ รถยนต์วิ่งผ่านไม่สะดวก หรือบางคันที่วิ่งผ่านต้องมีเหตุให้เครื่องยนต์ดับ จนต้องหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางบริเวณจุดตรงนี้ จากความผิดสังเกตของรอยแตกและยกตัวของถนนคอนกรีต จนสามารถมองเห็นช่องเป็นโพรงใหญ่อย่างชัดเจน ชาวบ้านบางคนลองเอามือล้วงเข้าไปในโพรงดังกล่าว บอกว่ารู้สึกถึงไอความร้อน ณ บริเวณนั้น จนอดที่จะแปลกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ เมื่อแรกขุดเจอพระพุทธรูปนาคปรก ต่อมาก็ได้พบกับวัตถุโบราณในบริเวณใกล้เคียง มีทั้งเครื่องลางรูปพญานาคที่ทำด้วยทองเหลือง เครื่องลางเป็นรูปพระนารายณ์นั่งคู่กับพระนางลักษมี ซึ่งมีพระพิฆเณศอยู่ตรงกลางด้านหน้าทำด้วยทองเหลือง รวมทั้งพระเครื่องดินเผาและกำไลโบราณทั้งหมดจำนวนมาก อายุราว 200 ปี เมื่อได้ขุดลึกลงไปอีกจึงได้พบกับเครื่องปั้นภาชนะดินเผา เชื่อว่าน่าจะมีการสร้างสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุราว 1,500-2,000 ปี สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ชาวบ้านได้นำมาตั้งไว้บูชา ณ ศาลหลักเมืองที่บริเวณใกล้เคียง สอบถามข้อมูล ได้ที่ ททท.สำนักงานสุรินทร์ 0 4451 4447-8

 

📸ภาพถ่าย



แคมปิ้ง เต็นท์ และอุปกรณ์กางเต็นท์

แคมปิ้ง เก้าอี้พับ และอุปกรณ์กางเต็นท์

แคมปิ้ง ไฟ LED และอุปกรณ์กางเต็นท์

แคมปิ้ง ถุงอาบน้ำ และอุปกรณ์กางเต็นท์

📰เรื่องราว

ไหว้พระ ขอพรสิ่งดีๆให้ชีวิต
    ดิจกกนมที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ไหว้พระ ถ่ายรูป และขอพร ศาลหลักเมืองสุรินทร์ เป็นอาคารสวยงาม กะทัดรัด มั่นคง เป็น เทวสถานที่สถิตของเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุรินทร์ เดิมเป็นศาลที่ยังไม่มีเสาหลักเมือง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 กรมศิลปากรได้ออกแบบสร้างศาลหลักเมืองใหม่ เสาหลักเมืองเป็นไม้ชัยพฤกษ์
     ศาลหลักเมืองสุรินทร์ แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ถนนเทศบาล3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ เมื่อก่อนนั้นจะเป็นศาลที่ยังไม่มีเสาหลักเมือง แต่ก็นับว่ามีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองสุรินทร์มาเป็นเวลานานนับกว่า 100 ปีมาแล้ว
     จนเมื่อปี พ.ศ. 2511 จังหวัดสุรินทร์ ก็ได้ขอให้กรมศิลปากรออกแบบแปลนก่อสร้างตัวศาลหลักเมือง เสาหลักเมือง ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ สูงกว่า 3 เมตร วัดรอบได้ 1 เมตร ตกแต่งแกะสลักอย่างสวยงาม เลยทำให้ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2515 ก็ได้ฤกษ์ในการประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ ตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดย ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง
     หลังจากนั้นทางจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้มีการบูรณะปรับปรุงรูปแบบ ศาลหลักเมือง ขึ้นใหม่ โดยผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเขมรและศิลปะแบบไทยเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นศาลหลักเมืองที่มีความสวยงดงามและยิ่งใหญ่อลังการนี้ขึ้นมา
เหตุการณ์สำคัญในอดีต บริเวณ ศาลหลักเมืองสุรินทร์
     รวมถึงในอดีต ยังเคยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่บริเวณ ศาลหลักเมือง นี้ด้วย คือตอนที่เกิดรอยแยกบนพื้นถนนนั้น เลยมีการขุดลงไปพบพระพุทธรูปนาคปรกและวัตถุโบราณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่องดินเผา กำไลโบราณ และ เครื่องปั้นภาชนะดินเผา ที่สร้างขึ้นในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุน่าจะราวๆ กว่า 1,500-2,000 ปีเลยทีเดียว เลยได้มีการนำไปบูชาที่ศาลหลักเมือง

     นอกจากความสวยงามของ ศาลหลักเมืองสุรินทร์ นี้แล้ว ยังมีพระพุทธรูปและวัตถุโบราณต่างๆ ที่ควรค่าแก่การไปชมมากด้วยเช่นกัน เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของ สุรินทร์ ที่ต้องไปสักการะ ไหว้ขอพร รวมทั้งไปชมความสวยงาม แบบที่ว่าห้ามพลาดเลย
    ศาลหลักเมืองสุรินทร์เดิมเป็นศาลที่ยังไม่มีเสาหลักเมืองแต่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไปมาเป็นเวลานานนับ 100 ปี

    ครั้น พ.ศ. 2511 จังหวัดสุรินทร์ได้ดำเนินการขอให้กรมศิลปากรออกแบบแปลนก่อสร้างตัวศาลหลักเมืองเสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ มีความสูง 3 เมตรวัดรอบได้ 1 เมตรแกะสลักตกแต่งด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ ตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต
    ต่อมาจังหวัดสุรินทร์ได้มีการบูรณะปรับปรุงรูปแบบศาลหลักเมืองโดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเขมรและศิลปะแบบไทยเข้าด้วยกัน ทำให้ศาลหลักเมืองมีความสวยงามและใหญ่โตอลังการ

    ทั้งนี้ในอดีตเคยมีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นที่บริเวณศาลหลักเมืองเมื่อเกิดรอยแยกบนพื้นถนนทำให้มีการขุดลงไปพบพระพุทธรูปนาคปรกและวัตถุโบราณ เช่น พระเครื่องดินเผาและกำไลโบราณจำนวนมาก รวมถึงเครื่องปั้นภาชนะดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุราว 1,500 – 2,000 ปี ชาวบ้านจึงได้นำไปบูชาที่ศาลหลักเมือง
  • ที่อยู่ : ถนนเทศบาล3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/mQgEmmVrZ3d9fRWw8  
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
  • โทร : -
  • เว็บไซต์ : - 
  • ซื้อของฝากจากสุรินทร์ LAZADA  SHOPEE

📌แผนที่

🏕ที่พัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น